เมื่อเอ่ยถึงลอนดอนภาพที่ทุกคนคิดน่าจะเป็นเมืองใหญ่ที่มีตึกเก่าๆที่สร้างจากอิฐผสมกับตึกใหม่ๆที่ทันสมัยแต่สามารถอยู่ด้วยกันได้อย่างกลมกลืน ถือว่าเป็นลักษณะเฉพาะของเมืองผู้ดีแห่งนี้ เนื่องจากเมืองมีการพัฒนาอย่างต่อเนื่องจึงมีอาคารที่ก่อสร้างขึ้นมาใหม่หลายๆที่ บางอาคารกลายเป็นสัญลักษณ์ที่คนจดจำได้ดีอย่างเช่นตึกรูปหัวกระสุนที่เราคุ้นเคยกันเป็นอย่างดี วันนี้จะพาไปอัพเดทอาคารสมัยใหม่ที่มีในย่านเขตเศรษฐกิจถ้าจะให้เทียบก็น่าจะประมาณย่านสีลมบ้านเรานั่นเอง ไปดูกันI think "London"in your mind is combine the best of the old with the best of the new and harmony with,it is a character of the city.The city has to continually adapt to changing needs and many of its building have become icons such as the building seem bullet that well -known,today I will take you through the city and explore some of the latest development in architecture. 

"THE TANKS"  สเปซใหม่กำลังจะเกิดขึ้นที่ TATE MODERN โดยการออกแบบของสถาปนิก Herzog&De maron สถาปนิกเจ้าเดิมที่เคยปรับปรุงอาคารเก่าริมแม่น้ำให้กลายเป็น  TATE MODERN อันเลื่องชื่อมาแล้ว
THE TANK ได้จัดเทศการขึ้นระยะเวลา 15 สัปดาห์โดยมีเนื้อหาเกี่ยวกับ International performance และภาพยนต์ โดยเปิดให้ผู้เข้าชมได้เข้าไปทดลองใช้สเปซที่กำลังอยู่ในขั้นตอนการก่อสร้าง สงสัยหรือเปล่าว่าทำไมต้องเปิดใช้พื้นที่ในขณะที่ยังสร้างไม่เสร็จ? คำตอบคือทางพิพิธภัณฑ์มีจุดประสงค์เพื่อทดสอบความรู้สึกของผู้เข้าชมกับประสบการณ์การใช้พื้นที่ในส่วนที่ต่อเติมว่ารู้สึกอย่างไร ก่อนอื่นเรามาทำความรู้จักกับโครงการซักนิดดีกว่า

ในปี1994 พื้นที่แห่งนี้ถูกค้นพบโดยบังเอิญโดยคณะทีมทำงานออกแบบTATE MODERN ลักษณะเป็นห้องเหมือนถ้ำหรือหลุมหลบภัยที่อยู่ใต้ดินซึ่งเดิมเป็นห้องเครื่องและเป็นถังสำหรับเก็บน้ำมัน เมื่อมีโครงการส่วนต่อเติมเกิดขึ้นจึงมีการนำพื้นที่แห่งนี้มาใช้เพราะสถาปนิกมีความเห็นว่าเป็นพื้นที่ๆน่าสนใจมากกว่าการทำพิพิธถัณฑ์จากห้องสี่เหลี่ยมสีขาวธรรมดา โดยนำเสนอการเก็บห้องใต้ดินที่ไว้เหมือนเดิมโดยเฉพาะแปลนและวัสดุคอนกรีตเปลือยและทำส่วนต่อเติมขึ้นไปด้านบน ตัวอาคารเป็นทรงโค้งเหมือนถังเพื่อล้อกับโครงสร้างใต้ดิน

สถาปนิกกล่าวว่า "ลองนึกถึงภาพเขียนคลาสสิคที่แขวนอยู่บนกำแพงโค้งคอนกรีตเปลือย คงน่าสนใจ
และตื่นเต้นไม่น้อย"และส่วนที่ยากที่สุดคือการทำเสาโครงสร้างเพื่อนรับน้ำหนักตัวอาคารนั่นเอง
หลังจากที่ได้มีโอกาสเข้าไปมีประสบการณ์ในการใช้พื้นที่แล้วรู้สึกว่าน่าสนใจมาก ทำให้แทบจะอดใจรอให้อาคารเสร็จสมบูรณืไม่ไหว และเราค่อนข้างมั่นใจว่า "THE TANKS" จะกลายเป็นพิพิธภัณธ์ที่มีชื่อเสียงมากแห่งหนึ่งของโลกในอนาคตเนื่องจากการออกแบบพื้นที่ๆไม่เหมือนใคร


"THE TANKS" is a new kind  of contemporary art museum,there is expansion project of Tate Modern museum it was designed by  Herzog&De maron ,the architech who was designed TATE MODERN in 1994.
 "THE TANKS" has been open the event of art performance and film for 15 weeks,in term of its openness to audience and to art in testing them and experimenting and discussing art public and making all this accessible to as many people as possible.
In 1994 , "THE TANKS" was encounted by design team who working in TATE MODERN project.
It's like the feel of cave or bunker as they are underground spaces and sculture from concrete.
While the extension project happened ,the architects are consideration use this area to make new spaces.They have some idea in approach,they said that "it's should not be  seen as the white cube but instead as something that was essential" The shape of building is around as structure beneath the ground ,imagine a classic painting hanging in the round raw concrete that would be amazing!
After I saw the event  I can't wait to see a completely building .I'm certainly  "THE TANKS"would be the most famous museum in the world.

ฟังชื่อแล้วคงนึกว่าวันนี้จะไปถ่ายรูปโรงแรมมาฝากใช่หรือเปล่า ถ้าคิดแบบนั้นผิดแล้ว เพราะสิ่งที่จะพาไปวันนี้เป็นร้านขายช็อคโกแลทที่มี Concept  ร้านและการตกแต่งที่เก๋ไก๋ มีสาขาหลายแห่งทั่วลอนดอน ตอนแรกที่เดินผ่านหน้าร้านคิดว่าเป็นโรงแรมที่มีช็อคโกแลทขายเป็นจุดเด่น  แต่ HOTEL CHOCOLATE ไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้องอะไรกับโรงแรมทั้งสิ้นแต่ความพิเศษของร้านนี้คือชั้นใต้ดินเป็นร้านอาหารที่ทุกเมนูมีส่วนประกอบของช็อคโกแลทเป็นหลัก และการตกแต่งร้านที่ใช้ของเรียบง่ายแต่มีคาแรคเตอร์นั่นเอง วันที่ไปได้ลองเมนูสะลัดผักราดน้ำช็อคโกแลท รสชาติอร่อยกลมกล่อม สำหรับคนที่ชอบกินอาหารที่รสหวานหน่อยน่าจะชอบ และแน่นอนต้องไม่พลาดขนมและช็อคโกแลทร้อนเพราะเป็นเมนูหลักของร้าน ซึ่งรสชาติก็ค่อนข้างอร่อย และราคาไม่แพงจนเกินไปนัก น่าจะพอๆกับร้านอาหารตามห้างสรรพสินค้าของบ้านเรา


ส่วนการตกแต่งร้านได้แบ่งพื้นที่เป็นสองส่วนด้วยกันชั้นแรกเป็นส่วนขายและชั้นใต้ดินเป็นร้านอาหารและห้องน้ำ มีการแยกเคาร์เตอร์เก็บเงินออกเป็นสองส่วน วัสดุที่ใช้เรียบง่าย พื้นไม้มี Texture ชัดเจน ผนังอิฐก่อโชว์แนว ผ้ากระสอบ และเฟอร์นิเจอร์ที่รูปแบบเรียบง่ายทำจากไม้ดิบๆอีกเช่นกัน แต่ที่สำคัญสุดน่าจะเป็นกราฟฟิคที่ใช้สีดำ-ขาว ที่ลงตัวกับองค์ประกอบของวัสดุดิบๆ จนเกิดเป็นคาแรคเตอร์ของร้านนี้ ทุกสาขาจะตกแต่งด้วยวัสดุเหมือนกันต่างกันที่การวางพื้นที่การใช้สอยที่อาจจะไม่เหมือนกันบางสาขาไม่มีร้านอาหารแยกส่วนแต่ใช้เคาร์เตอร์บาร์นั่งแทนโต๊ะอาหาร
เป็นตัวอย่างที่ดีในการใช้ของที่มีราคาถูกมาตกแต่งร้านและใช้กราฟฟิคเป็นตัวช่วยให้เกิดความน่าสนใจ และแก้ปัญหาเรื่องฝ้าเตี้ยได้ดีโดยโชว์โครงสร้างและโชว์ท่องานระบบต่างๆซึ่งก็ไม่ได้รู้สึกขัดแย้งกับการตกแต่งโดยรวม

This's good case study, isn't it?

กลับมาแล้วกับอัพเดทการแต่งกายของชาวลอนดอนเนอร์ วันนี้จะพาไปดูการแต่งตัวเดินตลาดนัดวันอาทิตย์ของเจ้าของพื้นที่และผู้มาเยือน เรายังอยู่กันที่ตลาดดอกไม้ที่เดิม ไปดูกันว่าเค้าแต่งกันอย่างไร
Back again to fashion of the Londoner. We're at the flower market. Let see the local peoples and the visitors ,what they wore?

สีสรรสดใสในเช้าวันอาทิตย์ The beautiful colour,casual style and nice girls.

แจ็คเก็ตยีนส์กับที่คาดผมสุดชิค  Jackets, jeans and a headband with chic style.

หมวก,แว่นตากันแดด,หูกระต่ายและแจ็คเก๊ต อยู่ด้วยกันได้อย่างไม่น่าเชื่อ Hats, sunglasses, jacket and bow tie. Go with the incredible.

ชอบกางเกงลายขวางและรองเท้าผ้าใบสีดำ I like  sneakers and  a trouser  black cross.

ยีนส์สั้นกับรองเท้าบูทสั้นที่ใส่โชว์ถุงเท้านิดๆดูเซ็กซี่ Denim short, boots, short socks, She look a little bit sexy.

กระโปรงวินเทจลายดอกไม้เข้ากันกับตลาดขายดอกไม้ Vintage floral skirt, go with the flower market.

สบายๆกับชุดลายขวางตัวโพร่งและเสื้อคลุมไหมพรม Comfortable with big dress pattern across , and wool cardigan.

ชายหนุ่มผู้รักสุขภาพกับจักรยานคู่ใจและเสื้อผ้าสีน้ำเงินเข้ม Healthy young man with dark blue clothing and bike lover.

ชอบการแต่งกายของทั้งคู่ดูสวยและลงตัว You guys dress well and look perfect.

วัยรุ่นอังกฤษขนานแท้กับการแต่งกายที่มีคาแร็คเตอร์โดยเฉพาะเสื้อแจ็คเก็ตตัวโคร่ง British teenager with authentic costumes and character factor, especially in an oversizes jacket

ถนนเส้นเล็กๆในลอนดอนเส้นนี้ในวันปกติก็เป็นแค่ย่านบ้านพักอาศัยธรรมดาแต่เมื่อวันอาทิตย์มาถึงจะแปลงร่างเป็นตลาดขายดอกไม้แสนน่ารักที่ผู้ดีชาวอังกฤษออกมาเดินเล่นซื้อหาดอกไม้กัน ถนนแห่งนี้มีความยาวไม่กี่ร้อยเมตรแต่อัดแน่นไปด้วยดอกไม้หลากหลายชนิด หลากหลายสีสรรให้เลือกซื้อหา หรืแม้แต่แค่ไปเดินเล่นในตอนเช้าวันอาทิตย์ก็มีความสุขแล้วเพราะสองข้างทางมีร้านกาแฟน่ารักๆ มีร้านขายขนมต้นตำหรับอังกฤษหรือขนมจากอิตาลีก็มีให้เลือกชิม บางช่วงมีร้านขายหนังสือเก่า ร้านขายของแต่งบ้าน หรือแม้แต่แกลเลอรี่เล็กๆให้เดินเข้าไปชมได้เป็นอาหารตาอีกด้วย ตามหัวมุมถนนมีนักดนตรีคลาสสิคมาเปิดหมวกเล่นเพลงให้ฟังฟรีๆคลุกเคร้ากับบรรยากาศดีๆของตลาดดอกไม้กับกลิ่นหอมของกาแฟและขนมอบดูมีรสนิยมอย่างบอกไม่ถูก

จึงมักจะเห็นชาวลอนดอนที่มีลูกเป็นเด็กเล็กๆแต่งตัวกันน่ารักออกมาเดินตลาดและถ้าวันไหนมีแดด อากาศดีเค้าจะพาครอบครัวมานั่งลงที่พื้นถนนและฟังดนตรีพร้อมซื้อกาแฟมานั่งดื่มกัน เป็นอีกที่หนึ่งที่มาแล้วชอบมากเพราะทุกคนดูมีความสุขกับบรรยากาศโดยรอบ ถ้าใครที่อยากมาชมตลาดแห่งนี้แนะนำให้มาซักเก้าถึงสิบโมงเช้าเพราะคนยังไม่เยอะมากเดินกำลังสบาย สายๆนักท่องเที่ยวเริ่มเยอะอาจจะเดินไม่ค่อยสะดวกเพราะถนนค่อนข้างเล็ก วิธีการเดินทางมาค่อนข้างหายากนิดหนึ่ง สามารถเดินจากสถานี Liverpool street station ได้โดยมุ่งหน้ามาทาง Brick lane market เดินมาเรื่องๆจนสุดถนนแล้วให้สังเกตคนที่เดินถือดอกไม้ว่ามาจากทางไหน หรือถามคนแถวนั้นก็ได้ วันนี้มีดอกไม้สวยๆมาฝากพร้อมชื่อที่เรียกยากๆ แต่สีสรรน่ารัก

วันนี้มีศิลปนิพนธ์ดีๆของนักศึกษาจาก Royal College of Art มาฝาก RCA เป็นมหาวิทยาลัยศิลปะที่มีชื่อเสียงที่สุดแห่งหนึ่งของลอนดอน เนื่องจากปีนี้เป็นปีครบรอบก่อตั้งมหาวิทยาลัยครบ 175 ปี จึงมีการจัดแสดงงานครั้งใหญ่จากนักศึกษามากกว่า 500 คน จาก 40 เชื้อชาติที่จบจากมหาวิทยาลัยชื่อดังแห่งนี้ จึงมีผลงานให้ได้เลือกดูหลากหลายสาขามากมาย เช่น   Architecture; Ceramics & Glass; Fashion Footwear & Accessories; Goldsmithing, Silversmithing, Metalwork & Jewellery; Innovation Design Engineering; Textiles; and Vehicle Design exhibiting in the Darwin Building.  Animation and Visual Communication เนื่องจากมีงานแสดงมากมายจึงมีการแบ่งพื้นที่ออกเป็นสองแห่ง สองวิทยาเขตคือ Battersea and Kensington แต่ที่จะพาไปชมวันนี้คือ Kensington เพราะมีงาน Architecture ที่ค่อนข้างมีวิธีการคิดและนำเสนอออกมาใกล้เคียงกับงานอินทีเรียร์ น่าจะมีประโยชน์บ้างเพื่อนำเป็นแนวทางไปสู่การสร้างแรงบัลดาลใจใหม่ๆ

ที่นำเสนอผลงานของนักศึกษาที่นี่เพราะ แต่ละปีที่เป็นช่วงแสดงงานค่อนข้างได้รับความสนใจจากประชาชนมากพอสมควรจากสถิติปีที่แล้วมีคนเข้าชมงานมากถึง 40,000 คนเลยทีเดียว เพราะคนที่ไปชมรอคอยและอยากรู้ว่าปีนี้จะมีอะไรใหม่ๆจากไอเดียใหม่ๆของนักศึกษาให้ได้ตื่นเต้นบ้าง บางคนก็ไปชมเพื่อหาบัณฑิตที่มีความสามารถตรงตามความต้องการเพื่อเสนองานให้ จึงเป็นเวทีก้าวแรกที่สำคัญของนักศึกษามาก และผลงานออกแบบบางสาขาซื้อขายกันได้จริงตามต้องการโดยเงิน15%ของรายได้จะหักให้กับมูลนิธิของมหาวิทยาลัย
เราเดินทางไปถึงงานประมาณบ่ายโมงบรรยากาสยังไม่คึกคักเท่าไหร่อาจจะเป็นเพราะเป็นวันแรกของการจัดแสดงงานก็เป็นได้จึงเป็นการดูงานแบบสบายๆไม่ต้องเบียดกับคนอื่นมากนักและมีเวลาดูผลงานที่น่าสนใจค่อนข้างมาก
สาขาที่น่าสนใจสุดสำหรับเราก็ไม่พ้น Architecture นั่นเอง มีการนำเสนอที่น่าสนใจมากทั้งวิธีการหาข้อมูลและการนำเสนอข้อมูล หรือการนำเสนอไอเดียออกมาด้วยสื่อต่างๆ  โดยรวมของผลงานในแง่ของการนำเสนอและเทคนิคต่างๆเทียบได้กับผลงานของบริษัทที่เป็นมืออาชีพเลยทีเดียว ไปดูกันว่าชิ้นไหนที่เราชอบบ้าง

ศาลาพักผ่อนในสวน ที่มีรูปทรงกลมกลืนไปกับสภาพแวดล้อมออกแบบโดยคู่หูสถาปนิกและศิลปินชื่อดัง Herzog & de Meuron and Ai Weiwei ผู้ซึ่งเคยออกแบบ ตึกรังนกในโอลิมปิกที่ปักกิ่งปี 2008 (Beijing's superb Bird's Nest Stadium)นั่นเอง เป็นธรรมเนียมทุกปี  Serpentine Gallery จะมีโครงการก่อสร้างศาสาฤดูร้อน และมักจะมีสถาปนิกชื่อดังของโลกมาออกแบบผลงานฝากไว้ที่หน้า Gallery แห่งนี้  Peter Zumthor,Jean Nouvel ,Frank Gehry ,Rem Koolhaas and Cecil Balmond, Toyo Ito , และ Zaha Hadid ซึ่ง concept หลักของปีนี้คือการเชื่อมต่อเวลาของโอลิมปิกระหว่างปักกิ่งและลอนดอน ที่ออกแบบโดยทีมผู้ออกแบบเดียวกัน

ตัวอาคารออกแบบให้มีความลึกลงไปใต้พื้นดินใช้เสาแค่สิบสองต้นในหารรับน้ำหนักตัว หลังคาเรียบและใช้น้ำสะท้อนความร้อนบนหลังคาลักษณะคล้ายแผ่นกระจกผืนใหญ่ โดยผู้ออกแบบกำหนดความสูงจากหลังคาถึงพื้นสนามหญ้า 1.40 เมตร ส่วนของ Interior ใช้ cork เพื่อหุ้มผิวสัมผัสทั้งหมด เพราะเป็นวัสดุที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม
ผู้ออกแบบตั้งใจให้ผู้เข้าชมได้รู้สึกมองย้อนกลับไปที่โครงสร้างใต้พื้นผิวของสวน โดยใช้มุมมองที่เป็นระดับเดียวกับพื้นดิน

อาคารแห่งนี้ตั้งอยู่ในสวนสาธารณะกลางเมืองลอนดอนจึงมีประชาชนสนใจที่จะเข้าไปใช้เป็นจำนวนมาก ใช้เป็นที่พบปะเพื่อนฝูงหรือบางทีมีการจัดอีเว้นต่างๆ รอบๆอาคารสามารถนั่งปิคนิคกับครอบครัวได้และมีคาเฟ่เล็กๆเพื่อบริการขนมและเครื่องดื่ม จึงเป็นที่ๆเหมาะจะใช้เวลาว่างหรือวันหยุดเพื่อสังสรรกับเพื่อนฝูงและครอบครัว อาคารจะเปิดให้ประชาชนได้ใช้จนกระทั่งสิ้นเดือนตุลาคมนี้เท่านั้น ไม่ควรพลาดประสบการณ์นี้เป็นอย่างยิ่ง

Pavilion in the park. Shaped to harmony with the environment, designed by renowned artist and architect are Herzog & de Meuron and Ai Weiwei, who designed the Building of Bird's Nest in Beijing Olympic 2008 (Beijing's superb Bird's Nest Stadium) .
Every summer Serpentine Gallery has a big project ,designed by the famous architect in the world   such as Peter Zumthor, Jean Nouvel, Frank Gehry, Rem Koolhaas and Cecil Balmond, Toyo Ito, and Zaha Hadid.This year the concept of this is to connect the time between Beijing Olympics 2008 and London Olympics 2012. Designed by the same designer team.

Eleven columns characterising each past Pavilion and a twelfth column representing the current structure will support a floating platform roof 1.4 metres above ground. The Pavilion's interior will be clad in cork, a sustainable building material chosen for its unique qualities and to echo the excavated earth. Taking an archaeological approach, the architects have created a design that will inspire visitors to look beneath the surface of the park as well as back in time across the ghosts of the earlier structures.
The location of building is  in a park in central London, so there will be people who came here a lot.

As appropriate to meet friends, or perhaps it can have a different event. Around the building you can go to a picnic with a family.There are small cafes serve snacks and beverages. It is ideal to use vacation time or to socialize with friends and family.
The building will be open to public use until the end of October only. Do not miss this great experience.